จากกรณีข่าวดัง นายคาซิโตชิ ทานากะ อายุ 57 ปี ชาวญี่ปุ่น สามีญี่ปุ่นของนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 52 ปี เสียชีวิตจากการตกบันไดเมื่อปี พ.ศ. 2546 ซึ่งในชั้นแรกตำรวจสรุปคดีว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งนางพรชนกได้เงินประกัน 3 ล้านบาท
แต่ต่อมาได้มีการขอให้รื้อคดีใหม่ เมื่อสืบสวนได้มีชื่อ นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 52 ปี
อดีตสามีของนางพรชนก เข้ามาเกี่ยวข้อง พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการจึงเป็นโจทก์ยื่นฟ้องทั้ง 2 ในคดีฆาตกรรมนายคาซิโตชิ ซึ่งนายสมชายให้การรับสารภาพ ขณะที่นางพรชนกปฏิเสธข้อหามาโดยตลอด เมื่อวันที่ 16 มี.ค.61 ศาลชั้นต้นพิพากษานายสมชาย แก้วบางยาง จำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุกตลอดชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน ส่วนนางพรชนก จำเลยที่ 2 ศาลให้ยกฟ้อง
ล่าสุดวันนี้ (27 มิ.ย.) ศาลชั้นอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องนางพรชนก ยืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่านางพรชนกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนายคาซิโตชิ และไม่แน่ชัดว่าทราบมาก่อนว่าผู้ตายมีเงินประกัน ทั้งนางพรชนกให้การปฏิเสธมาโดยตลอด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย ยกฟ้องนางพรชนกในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง
ส่วนคดีกระทำผิดฐานซ่อนเร้นอำพรางศพ และกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินผู้เสียชีวิต ให้นางพรชนกรับโทษสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนดคือ จำคุกเป็นเวลา 20 ปี และคืนเงินจำนวนกว่า 7 แสน 6 หมื่นบาท ให้ลูกชายผู้เสียชีวิต
ก่อนหน้านี้นายสนองได้ติดต่อ ข่าวสดออนไลน์ เพื่อแก้ต่างและปฏิเสธว่าตนไม่ได้อะไรเด็ก โดยอ้างว่าตนแค่ ช่วยประคอง ด.ญ. ไม่ให้ล้ม ยอมรับว่ามือไปโดนตัวเด็กจริง และพร้อมที่จะพิสูจน์ดีเอ็นเอ ส่วนคดีเก่าที่กล่าวหาว่าตนอนาจารเด็กนั้น เพียงแค่ไปล้างก้นให้หลานสาว เมื่อถูกดำเนินคดี ก็ให้ความร่วมมือ เมื่อไปถึงศาลก็ถูกปล่อยตัวออกมา อีกทั้งยังอ้างว่าจะเข้ามอบตัวต่อตำรวจด้วย
จดหมายน้องชายแดน – วันที่ 22 มิ.ย. จากกรณี ‘น้องชายแดน หรือ ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน‘ อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนกวดวิชาเตรียมทหาร ‘บ้านพี่ณัฐ’ แบบกินนอนเพื่อเตรียมสอบทหารถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.
ผลชันสูตรศพ พบบาดแผลหลายจุด ศีรษะแตก อัณฑะมีรอยไหม้ ปอดช้ำ อวัยวะภายในเสียหายหนัก แพทย์ระบุสาเหตุเสียชีวิตจากตับอ่อนเสียหายกระทบต่อช่องท้อง หลังสืบสวนจากพยานเด็กที่เรียนในสถาบัน นำไปสู่การออกหมายจับ นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์อายุ 27 ปี เจ้าของสถาบันกวดเตรียมทหาร น.ส.พีรญา พละแสน ภรรยา และ น.ส.นงลักษณ์ พละ แม่ยาย
คืบหน้าล่าสุด นายพิษณุ และนางสุวรรณา พ่อกับแม่น้องชายแดนได้เข้าไปเก็บของของน้องในสถาบันและได้พบกับบันทึกประจำวันและจดหมายที่น้องชายแดนเขียนระบายระหว่างอยู่ในโรงเรียนกวดวิชาว่าได้รับความทุกข์ทรมานเหมือนตกนรก ทำอะไรก็ผิด โดนซ้อมตลอด และอยากกลับบ้าน หัวอกพ่อแม่ได้อ่านถึงกับร่ำไห้อย่างเจ็บปวดเสียใจ
ทหารรวบรถขนยาไอซ์-ยาบ้า ข้างด่านเจดีย์3องค์ ได้ของกลางเพียบ
วานนี้ (21 มิ.ย.) ทหารฉก.ลาดหญ้า ได้รับรายงานว่ามีขบวนการลักลอบขนยาเสพติด เพื่อนำยาเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี จึงได้สนธิกำลังกับตำรวจและฝ่ายปกครองประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ถนน323 สายสังขละบุรี-ทองผาภูมิ-กาญจนบุรี หมู่ 2 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ
โดยพบรถกระบะต้องสงสัยผิดสังเกตและคนขับมีพิรุธ 2 คันขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถและควบคุมรถไว้ หลังตรวจสอบภายในรถกระบะคันแรกมี นายวิษณุ จันทร์มา อายุ 33 ปีเป็นคนขับ พบยาไอซ์ จำนวน 126 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ โดยมีการดัดแปลงเจาะช่องซุกยาไว้ท้ายกระบะรถ ส่วนรถกระบะคันที่สองที่มีนายณรงค์ สุขสาระพันธ์ อายุ 36 ปี เป็นคนขับ พบมีการดัดแปลงเจาะช่องเก็บของ มียาบ้า 7 มัด (ประมาณ 14,000 เม็ด) จากการสอบสวนเบื้องต้น นายณรงค์บอกว่าซื้อต่อมาจากนายหนึ่ง ชาวพม่า ราคามัดละ 50,000 บาท รวมราคาทั้งหมด 350,000 บาท โดยตนได้จ่ายไปแล้ว 175,000 บาท
หลังจากสอบสวนขยายผล นายวิษณุเล่าว่ามีรถยนต์ขับนำอีกคัน ตำรวจจึงเร่งสนธิกำลังที่จุดตรวจความมั่นคงต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และสามารถสกัดจับรถกระบะ พร้อมทั้งจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 รายคือ นายทวี ตาสว่าง อายุ 57 ปี นายประดิษฐ์ ชวนชื่น อายุ 42 ปี และ นายนพรัตน์ แซ่กี อายุ 44 ปี โดยเจ้าหน้าที่พบยาไอซ์ 211 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ลักษณะเดียวกันที่ท้ายกระบะ นอกจากนี้ เมื่อค้นตัวนายประดิษฐ์ ก็พบเงินสด 200,000 บาท ส่วนนายนพรัตน์พบเงินอีก 139,000 บาท และนายทวีพบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทพร้อมพระหลวงปู่ทวดเลี่ยมทอง และแหวนทอง
ผู้ต้องการทั้ง 5 คนให้การว่านั่งรถยนต์ของนายทวีมาจากตัวเมืองกาญจนบุรีเพื่อมารับยาเสพติดที่บริเวณด่านชายแดนเจดีย์สามองค์ โดยมีชาวพม่าขับรถทั้ง 3 คันมาให้ และนัดหมายจอดรถทิ้งไว้ในปั๊มน้ำมัน จากนั้นจะมีคนมารับอีกครั้ง ซึ่งทั้งห้าคนได้รับค่าจ้างคนละ 300,000 บาท
เมื่อบ่ายวันนี้ (21 มิ.ย.) ตำรวจสภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี ได้รวบตัว นายภาณุวัฒน์ ฟิวรัตน์ อายุ 22 ปี ช่างไฟฟ้าประจำหมู่บ้านพฤษา หลังก่อเหตุลักทรัพย์บ้านในโครงการได้ทองคำหนัก 2 บาทและธนบัตรเก่าอีกจำนวนหนึ่งเมื่อวานนี้
น.ส.ทัศราวรรณ เข็มเพชร อายุ 29 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตอนอยู่ชั้นล่างของบ้าน เมื่อจะขึ้นไปอาบน้ำชั้น 2 และเข้าไปในห้องนอน ก็เจอเหรียญบาทรุ่นเก่าที่ปกติเก็บไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้า ถูกวางอยู่บนที่นอน ตนจึงรีบไปเปิดดูลิ้นชักดังกล่าว และพบว่าสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท พร้อมด้วยธนบัตรรุ่นเก่าหายไป ตนจึงแจ้งตำรวจ
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม